วันจันทร์ที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2551
ต้นคริสต์มาส
นอกจากนั้น ชาวเยอรมันยังมีประเพณีอีกอย่างหนึ่งคือ มีการจุดเทียนหลายเล่มเป็นรูปปิรามิด ไว้ตลอดคืนคริสต์มาส โดยมีดาวของดาวิดที่ยอดปิรามิด ซึ่งประเพณีที่จะแขวนของขวัญและขนม ก็ได้รวมกับประเพณีของชาวเยอรมันนี้ มาตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 โดยเอาเทียนมาไว้ที่ต้นไม้ เป็นรูปทรงปิรามิด นี่เป็นที่มาของประเพณีปัจจุบัน ที่มีการแขวนของขวัญ และไฟกระพริบไว้ที่ต้นคริสต์มาส และมีดาวของดาวิดไว้ที่สุดยอด ประเพณีนี้ เป็นที่นิยมชมชอบของชาวตะวันตกอยู่มาก
แม้ว่าประเพณีการตั้งต้นคริสต์มาส มีความเป็นมาดังกล่าว ชาวคริสต์ในสมัยนี้ ก็ยังนิยมทำกันอยู่ เพราะเห็นว่า มีความหมายถึงพระเยซูเจ้า ผู้เปรียบเสมือนต้นไม้แห่งชีวิต (ปฐก.2:9) ที่เขียวสดเสมอในทุกฤดูกาล ซึ่งหมายถึง นิรันดรภาพของพระเยซูเจ้า และนอกจากนั้นยังหมายถึง ความสว่างของพระองค์ เสมือนแสงเทียนที่ส่องในความมืด ทั้งยังหมายถึง ความชื่นชมยินดี และความสามัคคี ที่พระเยซูเจ้าประทานให้ เพราะต้นไม้นั้น เป็นจุดรวมของครอบครัวในเทศกาล
วันเสาร์ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2551
กวางเรนเดียร์ ต้อนรับคริสมาสต์
วันเสาร์ที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2551
ตำนานคุณลุงซานต้าขวัญใจหนู ๆ ^0^
วันพฤหัสบดีที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2551
ประวัติ วัน คริสต์มาส
คือ การฉลองการบังเกิดของพระเยซูที่เราเฉลิมฉลองกันในวันที่ 25 ธันวาคม
คำว่า "คริสต์มาส" เป็นคำทับศัพท์ภาษาอังกฤษ Christmas มาจากคำภาษาอังกฤษโบราณ
ว่า Christes Maesse ที่แปลว่า "บูชามิสซาของพระคริสตเจ้า"
คำว่า "Christes Maesse" พบครั้งแรกในเอกสารโบราณเป็นภาษาอังกฤษในปี 1038
และคำนี้ก็ได้แปรเปลี่ยนมาเป็นคำว่า Christmas ในภาษาไทย "คริสต์มาส" ก็มีความหมาย
เช่นกัน คำว่า "มาส" แปลว่า "เดือน"
เทศกาลคริสต์มาสจึง เป็นเดือนที่เราระลึกถึงพระเยซูคริสต์เจ้าเป็นพิเศษ
คำว่า"มาส" คือ"ดวงจันทร์" ตีความหมายในภาษาไทยคือพระเยซูทรงเป็นความสว่างของโลก
เหมือนดวงจันทร์ เป็นความสว่างในตอนกลางคืน Merry X'mas คำว่า Merry
ในภาษาอังกฤษโบราณ แปลว่า"สันติสุขและความสงบทางใจ" คำนี้จึงเป็นคำที่ใช้อวยพรคนอื่น
ขอให้เขาได้รับสันติสุขและความสงบทางใจ ถือเอาประเพณีของชนในท้องถิ่นนั้น
มาประยุกต์เข้ากับศาสนา โดยจัดให้มีการฉลองเพื่อระลึก ถึงการบังเกิดของพระเยซู
ที่เขายกย่องเหมือนกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งสากลโลก ผู้ทรงเกียรติเลอเลิศประเพณี นี้
ได้เริ่มมาจากรุงโรมในศตวรรษ ที่ 4 และ ค่อยๆ เผยแพร่ไปทุกทวีป
ประวัติ....ซานตาคลอส
วันคริสต์มาสนี้เริ่มตั้งแต่คริสตวรรษที่4 มีนักบุญคนหนึ่งชื่อ "นิโคลาส "
หรือ "เซนต์นิโคลาส" ท่านเป็นนักบุญ ตั้งแต่อายุยังน้อย เมื่อเป็นเด็กหนุ่ม
ก็ได้รับแต่งตั้งเป็นสังฆราชแห่งแคว้นไมรา ซึ่งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศตุรกี
ท่านได้กลายเป็นนักบุญอุปถัมถ์ประจำชีวิตเด็ก เด็กในประเทศอังกฤษ จะเรียกคุณตาใจ
ดีว่า "คุณพ่อแห่งวันคริสต์มาส" ( Father Christmas )
เด็กเยอรมันนีเรียกว่า "ญาติแห่งพระคริสต์ " ( Christ Child )
เด็กชาวดัชท์เรียกว่า "ซาน นิโคลาส" หรือ "Sankt Klous"
ในที่สุดกลายเป็น "ซานตาคลอส" ติดปากเด็กๆทั่วโลก
ในปี ค.ศ. 1866 นักวาดการ์ตูนชาวอเมริกัน ชื่อ โธมัส แนส เป็นคนแรกที่วาดภาพของ
ซานตาคลอสขึ้นมาลักษณะเหมือนที่เรา เห็นทุกวันนี้ ลงพิมพ์ในหนังสือ
"Horpers Weekly"เป็นครั้งแรกใบหน้าของซานตาคลอส
เป็นสีแดงอมชมพูเหมือนกลีบกุหลาบ จมูกแดงเหมือนผลเชอรี่สุก
นัยน์ตาสุกใสเป็นประกาย หนวดเคราสีขาวท่าทางใจดี ถึงแม้ซานตาคลอสจะเป็นเพียง
ตำนานที่เกิดขึ้นมาเพื่อเฉลิมฉลองวันคริสต์มาสก็ตาม แต่ก็เป็นสัญลักษณ์
ที่รวมเอาวิญญาณและความหมายของคริสต์มาสไว้อย่างมากมาย คือความปิติยินดีชื่นชม
ความโอบอ้อมอารี ความรัก และความเป็นกันเอง
..ต้นคริสต์มาส.. ในสมัยโบราณหมายถึงต้นไม้ในสวนสวรรค์ ซึ่งอาดัมและเอวาไปหยิบผลไม้มากิน
และทำบาปไม่เชื่อฟังพระเจ้า ตั้งแต่ศตวรรษที่11 ชาวคริสต์แสดงละครที่หน้าวัด
ถึงความหมายของคริสต์มาสและเอาตันไม้ต้นหนึ่งไว้ตรงกลางเพื่อประดับฉากแสดงถึง
บาปกำเนิดของอาดัมและเอวาต้นไม้ที่ใช้เป็นต้นสน เนื่องจากเป็นต้นไม้ที่หาง่าย
ที่สุดในประเทศเหล่านั้น การแสดงละครคริสต์มาสแบบนี้ มีมาเป็นเวลาช้านานหลายร้อยปี
จนถึงศตวรรษที่15 พระสังฆราชหลายแห่งได้ห้ามแสดง
เนื่องจากการแสดงนั้นกลายเป็นการเล่น เหมือน ลิเก ล้อชาวบ้าน ผู้ปกครองบ้านเมือง
และศาสนาซึ่งไม่ตรงกับบรรยากาศของการฉลอง ชาวบ้านรู้สึกเสียดายที่
ไม่มีโอกาสดูละครสนุกๆแบบนั้นอีก จึงไปสนุกกันที่บ้านของ ตน
โดยเอาต้นไม้มาไว้ที่บ้าน เพราะต้นไม้เป็นจุดเด่นในลานวัด ที่เขาเคยร่วมสนุกกัน
จากนั้นก็เริ่มมีการแขวนลูกแอปเปิ้ลและแขวนแผ่นขนมปังเพื่อระลึกถึงศีลมหาสนิท ซึ่ง
ก็มีวิวัฒนาการ เปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ จนในที่สุด ก็กลายเป็นขนมและของขวัญ
อย่างที่เห็นอยู่ทุกวันนี้
เราจะเห็นได้ว่าวันคริสต์มาสเป็นวันสำคัญวันหนึ่ง เพื่อเป็นการระลึกถึงวันที่พระบุตรของพระเจ้ามาบังเกิดเป็นมนุษย์ พระองค์เป็นพระเจ้า ที่จะอยู่กับเราตลอดไปเป็นส่วนหนึ่งของมนุษย์ เป็นพี่หัวปีที่จะนำมนุษย์ทั้งมวลไปสู่พระบิดาเจ้า พระองค์เป็นความสำเร็จบริบูรณ์ ตามคำ สัญญาของพระเจ้าที่จะดูแลป้องกันรักษาเราผู้เป็นประชากรของพระองค์
เพลง : Jingle Bell
Dashing through the snow
On a one-horse open sleigh,
Over the fields we go,
Laughing all the way;
Bells on bob-tail ring,
making spirits bright,
What fun it is to ride and sing
A sleighing song tonight
Jingle bells, jingle bells,
jingle all the way!
O what fun it is to ride
In a one-horse open sleigh
A day or two ago,
I thought I'd take a ride,
And soon Miss Fanny Bright
Was seated by my side;
The horse was lean and lank;
Misfortune seemed his lot;
He got into a drifted bank,
And we, we got upsot.
Jingle Bells, Jingle Bells,
Jingle all the way!
What fun it is to ride
In a one-horse open sleigh.
A day or two ago,
the story I must tell
I went out on the snow
And on my back I fell;
A gent was riding by
In a one-horse open sleigh,
He laughed as there
I sprawling lie,
But quickly drove away.
Jingle Bells, Jingle Bells,
Jingle all the way!
What fun it is to ride
In a one-horse open sleigh.
Now the ground is white
Go it while you're young,
Take the girls tonight
And sing this sleighing song;
Just get a bob-tailed bay
two-forty as his speed
Hitch him to an open sleigh
And crack! you'll take the lead.
Jingle Bells, Jingle Bells,
Jingle all the way!
What fun it is to ride
In a one-horse open sleigh.
เตือนพ่อแม่สูบบุหรี่ลูกเสี่ยงโรคใหลตาย
วันจันทร์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551
น้อมรำลึก...เสด็จสู่สวรรคาลัย
ขอพระราชทานกราบบังคมทูลใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท
ข้าพระพุทธเจ้า ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต ใช้ถ้อยคำสามัญในการเขียนบทความชิ้นนี้ เพื่อป้องกันความผิดพลาด
ควรมิควรแล้วแต่จะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ
แผนกข่าวกีฬา น.ส.พ.มติชน
พระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ณ พระเมรุ ท้องสนามหลวง ลุล่วงไปแล้ว ด้วยความตื้นตันในจิตสำนึก ในการรับรู้ ของผู้เป็นคนไทยทั้งปวง
เป็นพระราชพิธีอันยิ่งใหญ่ อลังการ สมพระเกียรติ ตามแบบฉบับของโบราณราชประเพณี และการปรับแต่งให้สอดคล้องกับยุคสมัยในบางส่วนอันสำคัญ
ภาพ เสียง และบรรยากาศต่างๆ นั้น ทำให้คนไทยทุกคน ได้รับรู้ด้วยความรู้สึกอันลึกซึ้ง ตื้นตันมากมายนัก
มากมายนัก สำหรับคนไทย ซึ่งเป็นคนร่วมสมัยในห้วงเวลาอันสามารถรับรู้ พบเห็น สัมผัสได้ด้วยตัวเองโดยตรง กับพระราชกรณียกิจ กับพระกรณียกิจ กับการทรงงาน แห่งพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์
โดยเฉพาะ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ หรือ "ในหลวง" กับ "พระพี่นาง" ในการเรียกขานของชาวบ้านทั่วไป
นี่คือ ห้วงเวลาอันยิ่งใหญ่ในความรู้สึก ในการรับรู้ยิ่งนัก!!
@@@@@@@@@@
ภาพของ "ในหลวง" วางดอกไม้จันทน์พร้อมเปลวไฟให้ "พระพี่นาง" แล้วยืนนิ่ง นาน หลายอึดใจ ในยามบ่ายนั้น
ต่อด้วยภาพของ "ในหลวง" ในการเผาจริง "พระพี่นาง" อีกหลายชั่วโมงต่อมา ในยามดึกนั้น
คือภาพอันบ่งบอกถึงความผูกพันอันยิ่งใหญ่ ลึกซึ้ง ของพี่สาวกับน้องชายร่วมสายเลือดเดียวกัน ที่เหลืออยู่เพียงสองคน จนกระทั่งพี่สาวจากไป เหลือเพียงน้องชายตามลำพัง
ภาพเพียงภาพเดียว มีคุณค่ามากกว่าคำบรรยายหลายล้านคำยิ่งนัก!!
....."พี่สาวนี่ เคยบอกว่า ถึงเวลาอายุ 80 ปี ไม่ไหว ท่านอายุ 84 ก็เหนื่อย ท่านไม่ค่อยสบาย ก็เลยขอพูดถึงท่าน ขอให้ท่านสบาย และมีความสำเร็จในการรักษาตัว"
....."เดี๋ยวนี้ คนที่เป็นผู้ใหญ่ของข้าพเจ้า เหลือคนเดียว คือ พี่สาว"
นั่นคือ รับสั่งของ "ในหลวง" เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม พ.ศ.2550 ที่ผ่านมา
หลังจากนั้น "พระพี่นาง" สิ้นพระชนม์ เมื่อวันที่ 2 มกราคม พ.ศ.2551
และพิธีส่งเสด็จฯ "พระพี่นาง" สู่สรวงสวรรค์ มีขึ้นแล้วสิ้นสุดลง เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ.2551
....."ในหลวง" เคียงข้างผู้ใหญ่คนสุดท้าย เคียงข้างพี่สาว เคียงข้าง "พระพี่นาง" จนถึงวาระแห่งเถ้าถ่านสุดท้าย เมื่อเวลาล่วงเข้าวันใหม่
นับจากบัดนี้ไป "ในหลวง" ไม่มีผู้ใหญ่คนสุดท้ายอีกต่อไปแล้ว
@@@@@@@@@@
คนไทย สังคมไทย โดยเฉพาะวงการกีฬาไทยนั้น ภูมิใจยิ่งนักที่มี "ในหลวง" เป็น "กษัตริย์นักกีฬา" ซึ่งเป็นที่ยอมรับกันไปทั้งโลก
คนไทย สังคมไทย โดยเฉพาะวงการการศึกษาไทยนั้น ภูมิใจยิ่งนักที่มี "พระพี่นาง" เป็น "พระกัลยาณมิตราจารย์" หรือพระอาจารย์ผู้เป็นมิตรอันประเสริฐ ซึ่งเป็นที่ยอมรับกันในระดับนานาชาติเช่นกัน
นอกจากเป็นนักกีฬาเองแล้ว นอกจากเป็นเสาหลักของกีฬาเปตองในเมืองไทยแล้ว
"พระพี่นาง" ยังเป็นองค์อุปถัมภ์กิจกรรม และกิจการของคนพิการไทย ที่ส่งผลดีถึงกีฬาคนพิการในเมืองไทยอีกเช่นกัน
"พระพี่นาง" ยังทำให้คนไทยหูตาสว่าง กว้างไกลในการรู้จริงอันถ่องแท้มากขึ้น ว่า "โอลิมปิค" นั้น มิได้มีความหมายเพียงแต่มหกรรมกีฬา หรือกิจกรรมกีฬาเท่านั้น
หากแต่ "โอลิมปิค" อันเป็นภูมิปัญญาของกรีกโบราณนั้น แท้จริงแล้ว คือการเน้นองค์รวมของภูมิปัญญาด้านวิชาการ ศิลปวัฒนธรรม ดนตรี และกีฬา อย่างเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
"พระพี่นาง" คือผู้บุกเบิก "โอลิมปิควิชาการ" ของเมืองไทยเมื่อ 20 ปีก่อน จนเป็นรากแก้วแห่งการพัฒนาวิชาการของเยาวชนไทย ของคนไทยรุ่นใหม่มาจนถึงทุกวันนี้
"พระพี่นาง" ยังบุกเบิกและสนับสนุนกิจกรรมด้านดนตรี ศิลปะ วัฒนธรรมต่างๆ จนครบองค์รวมของภูมิปัญญาแห่ง "โอลิมปิค" เพื่อเป็นพื้นฐานของการสร้างคนไทยรุ่นใหม่ ให้มีคุณภาพครบถ้วนมากยิ่งขึ้น
"ในหลวง" และ "พระพี่นาง" จึงเป็นสัญลักษณ์แห่งภูมิปัญญาของการสร้างคนไทยรุ่นใหม่ ให้มีองค์ประกอบของความเป็นคน ครบถ้วนยิ่งขึ้น
@@@@@@@@@@
ภาพของ "ในหลวง" กับ "พระพี่นาง" ครั้งสุดท้ายนั้น
จึงมีคุณค่า มีความหมายยิ่งใหญ่ ลึกซึ้งสำหรับคนไทย และคนทั่วไป ยิ่งนัก
ลึกซึ้ง ดื่มด่ำไปถึงก้นบึ้งแห่งความเป็นสายเลือดเดียวกัน แห่งความเป็นคนเหมือนกันยิ่งนัก
ณ บรรทัดนี้ จึงขอน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของ "ในหลวง" ขอน้อมรำลึกในพระกรุณาธิคุณของ "พระพี่นาง" ที่มีต่อพสกนิกรชาวไทย
อย่างยิ่งใหญ่ เอนกอนันต์.....เสมอมา
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ
วันศุกร์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551
Obama élu président
Depuis Chicago, Barack Obama a salué son adversaire qui "a enduré des sacrifices pour l'Amérique que la plupart d'entre nous ne peuvent même pas commencer à imaginer".
John McCain a reconnu sa défaite, indiquant à ses partisans, rassemblés à Phoenix, dans l'Arizona, qu'il avait félicité Barack Obama ; des sifflets ont accueilli ces paroles.
"Le peuple américain a parlé, et il a parlé clairement", a ajouté le sénateur âgé de 72 ans qui a failli devenir le président le plus âgé à faire son entrée à la Maison Blanche.
Mais son expérience, dont il a joué face à son rival Barack Obama, de 25 ans son cadet, n'a pas suffi à convaincre.
"C'est une élection historique", a-t-il poursuivi, "je reconnais la signification particulière qu'elle a pour les Noirs américains, la fierté qui doit être la leur ce soir".
วันพฤหัสบดีที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551
Obama met en place son équipe
Emblématique de ce changement de statut: Barack Obama va commencer aujourd’hui à avoir accès aux mêmes rapports de la CIA que George Bush reçoit tous les jours. George Bush, qui a félicité hier son successeur et lui a promis “une collaboration complète” en vue du passage de relais.
La CIA indique que, pour la première fois, le président élu va recevoir aujourd’hui le même rapport secret que le président sortant. Ce type de rapport a trait aux questions de sécurité des Etats-Unis, y compris les opérations clandestines menées par la centrale américaine de renseignements à travers le monde.
Barack Obama a remporté le scrutin présidentiel avec 52% des suffrages exprimes, contre 46% à John McCain. Barack Obama est non seulement le premier président noir des Etats-Unis, mais aussi le premier candidat démocrate à obtenir plus de 50% des voix depuis la victoire de Jimmy Carter en 1976.
Apres avoir félicité son successeur par téléphone, George Bush est apparu hier dans la roseraie de la Maison Blanche afin de le saluer au nom du pays.
Dans une brève allocution, le locataire actuel de la Maison Blanche a estimé que l’avènement du premier président noir des Etats-Unis est “le triomphe de l’Amérique”.
Tout en saluant elle-aussi le caractère historique de l’élection de Barack Obama, la presse amércaine souligne qu’étant donné les nombreux défis importants que le président élu devra relever, de la crise économique à la guerre en Irak, Barack Obama serait bien avisé d’agir vite pour former son gouvernement et annoncer quelles seront ses premières mesures.
Le Los Angeles Times conseille ainsi a Barack Obama d’indiquer qu’il fermera la prison de Gunatanamo dés son arrivée a la Maison Blanche le 20 janvier. “Ce serait un démarrage symbolique”, écrit le quotidien californien qui souhaite aussi une reforme de l’immigration en faveur de la régularisation des sans-papiers.
De son côté, le Kansas City Star considère que les premières priorités de Barack Obama devraient être d’assurer “la stabilisation du système financier”, de réduire les dépenses de l’Etat, d’améliorer la couverture médicale aux Etats-Unis et de “diminuer rapidement l’engagement américain en Irak”.
Barack Obama a annoncé la formation de son équipe de transition. Elle est composée de Valerie Jarrett, une amie de Barack Obama, de Peter Rouse, le chef de cabinet de M. Obama au Sénat, et de John Podesta, l’ancien chef de cabinet de l’ancien président Bill Clinton.
Le rôle de ce trio est de faire la liaison avec l’Administration Bush et de soumettre à M. Obama les noms de candidats aux différents postes ministériels.
วันศุกร์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2551
Chinese melamine scandal widens
The toxic chemical melamine is probably being routinely added to Chinese animal feed, state media has reported.
Correspondents say the unusually frank reports in several news outlets are an admission that contamination could be widespread throughout the food chain.
The melamine scandal began early in September, when at least four Chinese babies were killed by contaminated milk, and thousands more became ill.
The news led firms across Asia to recall products made from Chinese milk.
The problem widened last weekend when the authorities in Hong Kong reported that melamine had also been detected in Chinese eggs.
Four brands of eggs have since been found to be contaminated, and agriculture officials speculate that the cause was probably melamine-laced feed given to hens.
Melamine is high in nitrogen, and the chemical is added to food products to make them appear to have a higher protein content.
'Open secret'
Several state newspapers carried reports on Thursday suggesting that the addition of melamine to animal feed was widespread. The feed industry seems to have acquiesced to agree on using the chemical to reduce production costs while maintaining the protein count for quality inspections," the state-run China Daily said in an editorial.
"We cannot say for sure if the same chemical has made its way into other types of food," the newspaper added.
The practice of mixing melamine into animal feed is an "open secret" in the industry, the Nanfang Daily reported.
Chinese officials have been criticised for initially covering up the melamine scandal - as they have in the past for other health scares.
Despite a nationwide campaign to raise food safety standards and reassure consumers, China's broken-down food safety inspectorate is still failing to catch and report lapses in standards when they happen.
Analysts say that Friday's news reports are an unusual departure for Chinese officials, marking what amounts to a tacit government admission that the problem could affect many parts of the food supply.
วันอังคารที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2551
Chinese PM promises tougher food-safety regulations
However, he promised tougher food-safety regulatory measures "in every process and link" of China's manufacturing of dairy products.
China's legislation on food safety would be improved to meet the international standards and requirements by importing countries, Wen said. He added that individuals held responsible for the scandal have been prosecuted.
"I know this incident has caused great damage. We will overcome this problem and ensure safe and healthy food production. This task is not easy for us," the Chinese premier told a press conference held after the closing of the 7th Asia-Europe Meeting (ASEM 7).
"This problem is not only for companies [involved] but also for the government," he said of the milk contamination scandal.
The recent discovery of melamine-tainted milk products from China scared many consumers around the world.
Melamine is known to cause kidney and urinary problems and its use in food production is universally banned. However, it is sometimes illegally added to food products in order to increase their apparent protein content.
Food safety was among the topics discussed by leaders from Asian and European Union nations during their Beijing summit.
The Chinese leader dominated the press briefing organised at the end of the ASEM summit at the Great Hall of the People.
He spent more than 10 minutes answering the first question from a French journalist as to whether there was any concrete result from the summit.
Wen said the fact that the participating leaders issued a joint statement reflected their consensus in dealing with the issues discussed, which included the global financial crisis, poverty and natural disasters.
He also focused on the need for the parties involved to restore confidence, increase cooperation, and take responsibility.
Only four questions were allowed at the press conference, which lasted slightly over half an hour. Less than 100 media representatives were permitted to attend the event in a pool arrangement. About 1,700 media members registered to cover the Beijing summit, according to the organisers.
Other ASEM leaders taking part in the post-summit press conference were French President Nicolas Sarkozy, in his capacity as the current president of the European Union, Sultan Hassanal Bolkiah of Brunei (who is the coordinator from Asean), and European Commission President Jos้ Manuel Barroso.
ASEM 7 was participated by 45 leaders from Asian and European Union nations. It was the largest ever of an inter-regional summit that was organised for the first time in Bangkok 12 years ago.
In their joint statement on the international financial situation, the ASEM leaders promised a reform of the international monetary and financial systems.
The leaders agreed to support the convening of an international summit next month in Washington DC to address the current financial crisis.
They also called on the International Monetary Fund (IMF) and other relevant international financial institutions to help stabilise the global financial situation. The statement asked for IMF to provide help to countries seriously affected by the crisis, when requested.
วันพฤหัสบดีที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2551
McCain tente le tout pour le tout contre Obama
John McCain a donné là sa meilleure prestation des trois débats télévises.
Il a en effet pris ses distances avec George Bush, avec une netteté qu’il n’avait pas manifestée auparavant.
“Je ne suis pas le président Bush, et si vous, Barack Obama, voulez vous présenter contre le président Bush, vous auriez du le faire il y a quatre ans”, a ainsi lancé John McCain.
“L’Amérique a besoin d’une nouvelle direction et toute mon expérience atteste de ma capacité à apporter des réformes”, a sssuré John McCain.
Le candidat du parti républicain de George Bush a reconnu que “les Américains sont en colère” et il a indiqué avoir été “décu” par certaines politiques de l’Administration Bush, notamment par certains aspects du plan de sauvetage de 700 milliards de dollars en faveur des banques privées.
John McCain a voté pour ce plan, mais a souligné hier soir que le plan ne s’attaque pas à la cause initiale de la crise économique et financière, à savoir, la crise immobilière qui a demarré il y a plus d’un an.
Barack Obama a lui-aussi voté pour le plan de sauvetage des banques privées, mais lors du débat, le candidat démocrate a regretté que ce plan ne prévoit pas de “sauvetage pour la classe moyenne”.
Mené dans l’opinion par 14 points, selon un sondage publié juste avant le débat par la chaine CBS, John McCain s’est montré agressif envers son adversaire et son programme.
John McCain a accusé Barack Obama de vouloir augmenter les impots et les dépenses publiques à un moment ou le pays est en crise.
Par contraste, John McCain a promis d’imposer un gel des dépenses publiques et d’équilibrer le budget.
“J’ai toujours sauvegarder avec soin l’argent des contribuables”, a affirmé le candidat républicain.
Mais malgré la bonne prestation de John McCain, Barack Obama, qui n’a pas fourni dans ce débat sa meilleure prestation, a rempli l’objectif qu’il devait remplir: continuer à apparaitre présidentiable, c’est à dire garder son calme face aux critiques et éviter toute erreur ou gaffe.
วันพุธที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2551
Divisions administratives
Les principales divisions administratives françaises sont les régions qui sont au nombre de 26 dont 22 métropolitaines, les départements (100 dont 4 outre-mer) et les arrondissements.Ces derniers arrondissements sont découpés soit en cantons (pour les collèges électoraux), soit en communes (environ 36 000) pour l’administration territoriale locale. Les cantons regroupent le plus souvent des communes complètes, toutefois certaines communes importantes sont découpées sur plusieurs cantons qui peuvent aussi comprendre d’autres communes voisines moins peuplées.Enfin quelques communes très importantes (Paris, Lyon, Marseille) sont elles-mêmes divisées en arrondissements de commune pour l’administration territoriale avec des mairies locales disposant d’une certaine autonomie financière et administrative au sein du même conseil municipal.Le département de Paris ne comprend qu’une seule commune, et que les 4 régions en outre-mer (Guadeloupe, Martinique, Guyane, Réunion) ne comptent chacune qu’un seul département. La région de la Corse (qui comprend deux départements) a un statut spécial de collectivité territoriale légèrement différent des autres régions métropolitaines. Ces régions sont toutefois partie intégrante de l’Union européenne.Depuis les lois Defferre de 1982-1983 et Raffarin de 2003-2004, la France est un État décentralisé. La réforme constitutionnelle de février 2003 précise que l’organisation de la République est décentralisée. La décentralisation, qui s’est dans un premier temps accompagnée de la déconcentration, favorise aujourd’hui pleinement l’émergence de véritables pouvoirs locaux dont l’équilibre fait cependant encore débat.Aux côté des collectivités territoriales de plein exercice que sont la commune, le département et la région, il existe aussi un échelon intercommunal qui est amené à exercer de plus en plus de compétences (développement économique, aménagement de l’espace, habitat, transports publics, assainissement). En effet, les communes sont toutes invitées à se regrouper sous le régime de l’intercommunalité qui dispose désormais d’une autonomie financière et fiscale, et de l’autorité de personne morale et juridique reconnue (l’établissement public de coopération intercommunale ou EPCI). En 2006, 2573 communautés (communautés de communes, communautés d’agglomération et communautés urbaines) recomposent le territoire national (soit 90% des communes et 85% de la population françaises. Certaines intercommunalités regroupent des communes de départements ou même de régions différentes. Dans les régions frontalières, des intercommunalités existent aussi avec des collectivités locales des pays voisins, ce qui facilite la gestion d’équipements communs, notamment en matière de transport.Un nouvel échelon a été créé avec l’élaboration des pays, qui regroupe des communes et des intercommunalités dans des ensembles plus grands que ne le sont les intercommunalités, afin de rassembler l’ensemble des communes d’un territoire, même celles exclues des intercommunalités existantes.Cependant, les populations ne se réfèrent que peu aux départements et aux régions administratives, excepté en milieu urbain (Seine-Saint-Denis notamment).[réf. nécessaire] En effet, la France est "une et indivisible", mais cette formule crée certaines tensions, surtout en raison du fait que le territoire français est composé de plusieurs "pays" ou "régions" qui ne sont que rarement reconnus, et dont certains ont leur propre langue (Alsace, Bretagne, Catalogne, Corse, Flandre, Pays basque, Pays Occitan, etc.), mais aussi beaucoup d'autres, qui n'en ont pas.
วันจันทร์ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2551
Bouaké, capitale rebelle
Nous sommes arrivés ici très tôt lundi matin en provenance de Yamoussoukro.
Cérémonie de la "Flamme de la paix" à Bouaké, en juillet 2003, en présence du président GbagboEt nous n’avons qu’une idée en tête: foncer au campus 1 de l’université de Bouaké, où nous devons réaliser les émissions l’Afrique en direct et le Club BBC.
Nous recevons un acceuil très sympathique à l’université. Le professeur Koné, chef de la scolarité et qui enseigne l’anglais, nous attend. Il a mobilisé des étudiants sous la direction de Konaté Moussa, le président du Comité des Etudiants du campus.
Il nous remercie d’être venus. “Je suis un inconditionnel de la BBC. Je m’abreuve de vos nouvelles. Et je les enregistre tres souvent pour proposer des exercices d’anglais à mes étudiants” raconte-t-il, enthousiaste. On le retrouvera sur le plateau de l’émission.
Ces jeunes gens se montrent efficaces. En quelques minutes, le podium de l’amphithéâtre A4 est transformé en studio de la BBC. Lee Sparley, notre ingénieur du son, s’active comme un diable pour s’assurer que tout est en place et que le signal satellite est en marche.
Envoyez vos réactions et vos commentaires à Michel
L’amphithéâtre qui peut contenir 300 places est au trois-quarts plein lorsque démarre l’Afrique en direct avec Mamadou Moussa Ba aux commandes.
J’ai appris presque incidemment, le matin, en discutant avec la patronne de l’hôtel Mon Afrik où nous sommes descendus, que le premier ministre Guillaume Soro est dans la ville. Vérification faite, il a présidé la veille une rencontre ici à Bouaké avec des ex-soldats rebelles démobilisés.
On sait que ceux-ci attendant toujours de toucher des indemnités et que le gouvernement “n’a pas d’argent”. La rencontre s’est déroulée sans la moindre publicité.
Nous tentons notre possible pour entrer en contact avec l’ex-chef rebelle que nous traquons depuis Abidjan. On nous fait polimment comprendre que ce ne sera pas possible. “Le patron est souffrant”, nous explique-t-on. Pour moi, mais j’ai sans doute l’esprit tordu, il s’agit d’une “maladie diplomatique”.
Il faut dire que le fief de l’ex-rébellion connaît une tension perceptible. Difficile d’affirmer si le patron des Forces nouvelles a réussi a calmer les ardeurs revendicatives des ex-camarades rebelles. Bouaké est une jolie bourgarde dans laquelle on pénètre en empruntant une immense avenue centrale.
En cette fin de saison de pluie, la température est clémente. Alors que nous traversons la ville, nous croisons un cortege de blindés des forces armées françaises.
La présence d’éléments du contingent Licorne pourrait être liée à la visite dans la ville du premier ministre. Une information que nous n’avons pu toutefois confirmer. Nous avons recroisé, cette fois au restaurant de notre hotel des soldats francais. Mais ils sont restés muets comme des carpes face a nos questions.
Malgre les problemes des ex rebelles, Bouaké donne l’impression de revivre. Le grand marché est aussi bruyant et animé que les étals des marchandes sont remplis. Les administrations, nous explique un habitant se sont remises a fonctionner. Certes, c’est au ralenti, mais les fonctionnaires qui avaient fui la guerre commencent a revenir.
Pourtant au campus de l’université, les étudiants ne décolèrent pas contre les responsables académiques et les autorités. "Il n’y a pas de professeurs" nous explique une étudiante en anglais, Maimouna Meité. “Nous comptons sur la BBC pour envoyer un message de détresse à nos autorités et au monde pour leur dire que nous sommes abandonnés, qu’il faut faire quelque chose.”
Ici, on se méfie de la nuit. Tout le monde a peur de croiser des hommes armés qui braquent. Les armes circulent abondamment et de façon incontrôlée.
La paix a certes franchi les portes de la ville, mais chacun sait qu’une étincelle peut rallumer à tout moment la mèche de la guerre.
วันเสาร์ที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2551
Secteur tertiaire
Les principaux partenaires commerciaux de la France sont évidemment les pays de l'Union européenne, avec lesquels son commerce est excédentaire et qui concentraient 62 % de ses exportations et 60 % de ses importations en 2000, ils sont suivis de loin par l'Amérique et l'Asie. L'Allemagne se détache en tête du marché européen puisque partenaire traditionnel. Elle est suivie du Royaume-Uni, de l'Italie et de l'Espagne qui constituent un fort débouché pour les entreprises exportatrices du pays.Concernant les importations, les plus grandes importations françaises sont d'ordre énergétique. Les principaux fournisseurs d'hydrocarbures de la France sont la Norvège, puis l'Arabie Saoudite, la Russie et enfin sa voisine britannique. On peut citer d'autres branches importatrices telles les biens d'équipement domestique et l'habillement-cuir.Le secteur tertiaire a une place prépondérante dans l'économie française à l'image de l'évolution faite dans les principaux autres pays industrialisés. En 2000, il employait près des trois-quarts de la population active française. Le commerce a été marqué depuis quelques années par un bouleversement donnant profit à la grande distribution, dont certains noms constituent des groupes de taille mondiale, souvent à la faveur de fusions-acquisitions de grande ampleur (Carrefour, Auchan, Casino,Leclerc, Intermarché…).
วันศุกร์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2551
พระราชดำรัสในหลวง เรื่อง ความสามัคคี
อย่างไรก็ตามวันนี้เราจึงขอยกตัวอย่าง พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงเน้นเรื่องความสามัคคีของคนในชาติ มุ่งให้คนไทยมีความรักใคร่กลมเกลียว สมัครสมานสามัคคี มีความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน อันจะนำพาประเทศชาติไปสู่ความเจริญรุ่งเรือง คงความเป็นชาติไทยไว้ได้ ดังความตอนหนึ่งในพระบรมราโชวาท พระราชทานแก่ทหารรักษาพระองค์ในพิธีตรวจพลสวนสนาม เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา วันพุธ ที่ 3 ธันวาคม 2512 ว่า
และกระแสพระราชดำรัส ที่พระราชทานแก่ประชาชนชาวไทย ในโอกาสขึ้นปีใหม่ 2494 ดังความตอนหนึ่งว่า " . . . ประวัติศาสตร์ได้แสดงให้ปรากฏตลอดมาว่า ชาติใดเสื่อมสูญย่อยยับอับปางไป ก็เพราะประชาชาติขาดสามัคคีธรรม แตกแยกเป็นหมู่คณะ เป็นพรรคเป็นพวก คอยเอารัดเอาเปรียบ ประหัสประหารซึ่งกันและกัน บางพรรคบางพวก ถึงกับเป็นไส้ศึกให้ศัตรูมาจู่โจมทำลายชาติของตนดังนี้ ข้าพเจ้าจึงขอชักชวนพี่น้องชาวไทยทั้งหลาย ให้ระลึกถึงพระคุณของบรรพบุรุษ ซึ่งได้กอบกู้รักษาบ้านเกิดเมืองนอนของเรามานั้นให้จงหนัก แล้วถือเอาความสามัคคี ความยินยอมเสียสละส่วนตัวเพื่อประโยชน์ยิ่งใหญ่ของประเทศชาติ เป็นคุณธรรมประจำใจอยู่เนืองนิจ จึงขอให้พี่น้องชาวไทยทั้งหลาย จงบำเพ็ญกรณีกิจของตนแต่ละคน ด้วยซื่อสัตย์สุจริต ขยันหมั่นเพียร อดทนและกล้าหาญ แล้วอุทิศความเสียสละส่วนตัว ความเหน็ดเหนื่อยลำบากยากแค้น เป็นพลีบูชาบรรพบุรุษ ผู้ซึ่งได้ก่อสร้างชาติเป็นมรดกตกทอดมาถึงพวกเราชาวไทยจนบัดนี้"
วันศุกร์ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2551
France d'outre-mer
วันจันทร์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2551
ซักชั้นในก่อนใส่ให้เป็นนิสัย มันเป็นเรื่องละเอียดอ่อนมาก ๆ นะ เพราะชั้นในเหล่านี้ถูกผลิตจากที่ต่าง ๆ กันทั่วโลก บรรจุลงกล่อง และผ่านมาแล้วหลายมือหลายขั้นตอนกว่าที่เราจะได้ซื้อมันมาใส่เอง เพราะเราไม่สามารถรู้ได้เลยว่ามีตัวปรสิตอะไรบ้างที่อาศัยอยู่ในเสื้อผ้าตอนที่เราซื้อมันมา นักมนุษยวิทยาซูซาน แมคคินเลย์กลับมาบ้านหลังจากการทดลองที่อเมริกาใต้ เธอสังเกตว่าอกซ้ายของเธอมีความผิดปรกติแปลก ๆ บางอย ่าง ไม่มีใครรู้ว่ามันคืออะไรและเธอก็ไม่ได้สนใจอะไรเพราะคิดว่าเดี๋ยวโพรงเหล่านี่ก็จะหายไปเอง
เธอตัดสินใจไปหาหมอหลังจากที่เริ่มเจ็บปวดมากขึ้น หมอก็ไม่รู้แน่ชัดว่ามันคือเชื้อโรคอะไร แต่ก็ได้ให้ยาแอนตี้ไบโอติกกับครีมพิเศษกับเธอ เวลาล่วงเลยไปแต่ความเจ็บปวดก็ไม่บรรเทาลง อกซ้ายของเธอเริ่มบวมและมีเลือดออก เธอตัดสินใจพันแผลไว้ แต่เมื่อความเจ็บปวดทวีมากขึ้น เธอก็พยายามหาหมอที่มีความเชี่ยวชาญมากขึ้น ดร.ลินช์ไม่สามารถวินิจฉัยโรคนี้ได้และได้แนะนำเธอให้ไปขอรับความช่วยเหลือจากเพื่อนคนหนึ่งของเขาซึ่งเชี่ยวชาญด้านโรคผิวหนัง ซึ่งน่าเสียดายที่เขากำลังหยุดงานอยู่ เธอรอคอยถึง 2 สัปดาห์และในที่สุดก็สามารถพบผู้เชี่ยวชาญโรคผิวหนังได้ น่าเศร้าที่เหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลงชีวิตได้คลี่คลายออกมาระหว่างการนัดพบ หลังจากที่เธอนำผ้าพันแผลออก ซูซานก็ประหลาดใจอย่างมากเมื่อพบว่ามีตัวอ่อนกำลังเติบโตและดิ้นอยู่ภายในโพรงของทรวงอกที่ปวดร้าวของเธอ บางทีสิ่งมีชีวิตที่เลวร้ายนี้อาจกำลังเคลื่อนไหวพร้อม ๆ กันไปยังรอยแยกอื่น ๆ และ สิ่งที่เธอไม่เคยรู้มาก่อนก็คือโพรงนั้นลึกเกินกว่าที่เธอคิดไว้ในตอนแรก และเจ้าตัวอ่อนที่น่ารังเกียจพวกนี้ก็ถูกเลี้ยงดูฟูมฟักด้วยไขมัน เนื้อเยื่อและต่อมน้ำนมจากอกของเธอเอง บรื๋ออออ ช่วย กันส่งต่อให้ทุก ๆ คนที่คุณรู้จักกันเถอะ แหวะ !!
ที่มา FWD mail
เนื่องจาก ภาพนี้เป็นภาพที่เคยเห็นมานานแล้ว แต่ไม่แน่ใจว่า เป็นภาพปรับแต่ง ตัดต่อหรือไม่ อย่างไร ผ่านมาอีกหลายปี เลยได้ฟอร์เวิร์ดเมล์ ที่ส่งมาพร้อมข้อความ แต่ก็ไม่ทราบว่าเป็นข้อเท็จจริงประการใด เลยเอามาให้อ่านเตือนใจเอาไว้ แม้จะจริงหรือไม่จริง .. บทความแบบนี้ อ่านไปก็ไม่เสียหาย นอกจากเพิ่มความระมัดระวัง ใส่ใจความสะอาด และสุขภาพให้มากๆ ขึ้น จริงมั้ยจ๊ะ.. ซักเสื้อผ้าก่อนใส่ ดีที่สุดจ้า
วันพุธที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2551
ประวัติความเป็นมาของ วันแม่ ^0^
ภาษาไทย แม่
ภาษาจีน ม๊ะ หรือ ม่า
ภาษาฝรั่งเศส la mere (ลา แมร์)
ภาษาอังกฤษ mom , mam
ภาษาโซ่ ม๋เปะ
ภาษามุสลิม มะ
ภาษาไทใต้คง เม
วันอาทิตย์ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2551
Ethnicité
วันอังคารที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2551
Industrie
วันพุธที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2551
France
วันศุกร์ที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2551
France Géographie
La France est le 47e État par sa surface terrestre et le 2e par la surface de sa zone économique exclusive. La France métropolitaine est localisée en Europe occidentale (voir la liste de points extrêmes de la France). La France possède aussi des territoires, sous différents statuts administratifs, en dehors du territoire européen : en Amérique du Nord, dans les Antilles, en Amérique du Sud, dans l’océan Indien, dans le nord et le sud de l’océan Pacifique et en Antarctique. Elle partage en métropole 2970 km de frontières terrestres avec huit pays limitrophes : Espagne (650 km), Belgique (620 km), Suisse (572 km), Italie (515 km), Allemagne (450 km), Luxembourg (73 km), Andorre (57 km), Monaco (4,5 km). En Guyane, les frontières sont de 700 km avec le Brésil et 520 km avec le Suriname. Une frontière longue de 10,2 km (mais non matérialisée) sur l’île de Saint-Martin aux Antilles, sépare la partie française de celle sous souveraineté des Pays-Bas. Enfin la Terre Adélie (TAAF) revendiquée par la France est enclavée dans une partie de l’Antarctique revendiquée par l’Australie. Les côtes françaises présentent quatre façades maritimes tournées vers la mer du Nord, la Manche, l’océan Atlantique et la mer Méditerranée, ce qui fait de la France un carrefour de cultures et de communications unique en Europe.D'une superficie métropolitaine de 551 500 km² (675 417 km² avec l'outre-mer), la France s'étend sur 1000 km du nord au sud et d'est en ouest (plus grande distance nord-sud : Bray-Dunes - Cerbère). C'est le troisième plus grand pays d'Europe, après la Russie et l'Ukraine (2ème si on compte l'outre-mer) et le plus grand de l'Union Européenne. La France métropolitaine a quatre façades maritimes sur (du nord au sud) : la Mer du Nord, la Manche, l'océan Atlantique et la mer Méditerranée. La longueur totale de ses côtes atteint 3427 km. La France est un isthme.À l'exception de sa frontière nord-est, le pays est délimité principalement par des mers et l'Océan et des frontières naturelles : Rhin, Jura, Alpes, Pyrénées.La France métropolitaine a une grande variété de paysages, entre les plaines côtières situées dans le nord et l’ouest et les chaînes de montagnes dans le sud-est (les Alpes) et dans le sud-ouest (les Pyrénées). Les Alpes françaises possèdent le point le plus haut d’Europe de l’Ouest, le mont Blanc, qui culmine à 4 810 m. Il existe aussi d’autres régions montagneuses plus anciennes, telles le Massif central, le Jura, les Vosges, le massif armoricain et les Ardennes qui sont assez rocheuses et boisées. La France bénéficie également d’un réseau fluvial étendu qui est composé principalement par la Loire, le Rhône (source en Suisse), la Garonne (source en Espagne), la Seine et une partie des cours du Rhin, de la Meuse, et de la Moselle ainsi que la Somme, et la Vilaine qui constituent leurs propres bassins fluviaux.